เวลาประมาณ 11.00 น. ของวันที่ 19 ตุลาคม 2559 ชาวบ้านบ้านร่องท่อนและบ้านปลวกง่าม ต.ชมภู อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก และตัวแทนชมรมพิทักษ์ธรรมชาติ(คนกับป่า) จังหวัดพิษณุโลก ได้เข้ายื่นจดหมายเปิดผนึกต่อ นายสุรียา หาญไพบูลย์ นายอำเภอเนินมะปราง จ.พิษณุโลก เพื่อเสนอแนะการดำเนินการดูแลรักษาป่าชุมชนร่องท่อน โดยเสนอว่า “ชุมชนยืนยันว่าสามารถบริหารจัดการป่าชุมชนได้เอง และดูแลรักษาป่าร่วมกัน โดยมีความร่วมมือจากหลายภาคส่วน โดยมีการกำหนดกฎระเบียบและข้อตกลงร่วมกันของชุมชน และได้เสนอให้มีการปรึกษาหารือเพื่อปรับทิศทางการทำงานร่วมกันทั้งภาครัฐ ชุมชน องค์กรอิสระ องค์กรพัฒนาเอกชน กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติและภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อลดความหวาดกลัวและความกังวลของคนในชุมชนต่อแนวทางปฏิบัติของเจ้าหน้าที่รัฐ”
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 9-10 ตุลาคม 2559 ชาวบ้านร่องท่อน บ้านปลวกง่าม และชมรมพิทักษ์ธรรมชาติ(คนกับป่า)จังหวัดพิษณุโลก ได้สำรวจและปักหลักแนวเขตป่าชุมชนบ้านร่องท่อน ที่มีการจัดการดูแลป่า ภายใต้ทิศทางการอนุรักษ์และการหากินในขอบเขตที่ชุมชนได้กำหนดไว้ร่วมกัน เพื่อซ่อมแซมป้ายแนวเขตเดิมที่ทำไว้มานาน ซึ่งทรุดโทรมสูญหายไปตามกาลเวลา รวมทั้งแสดงแนวเขตที่ชัดเจน
แต่ในขณะเดียวกัน ในวันที่ชาวบ้านได้ประชุมเพื่อหารือแนวทางของกิจกรรม (9 ต.ค.59) ได้มีเจ้าหน้าที่อุทยานฯ จำนวนหนึ่ง เข้ามาสั่งการให้ชาวบ้านหยุดดำเนินกิจกรรม จึงนำมาสู่ความหวาดกลัวและความกังวลถึงแนวทางปฏิบัติของเจ้าหน้าที่รัฐ
นายน้อย วิลัยฤทธิ์ ที่ปรึกษาชมรมพิทักษ์ธรรมชาติ(คนกับป่า)จังหวัดพิษณุโลก เปิดเผยต่อผู้สื่อข่าวหลังการยื่นจดหมายเปิดผนึกและพูดคุยกับนายอำเภอเนินมะปราง “วันนี้เรามายื่นจดหมายเปิดผนึกให้นายอำเภอได้รับทราบถึงกรณีที่หน่วยงานรัฐนำเอาป้ายไปติดประกาศเป็นเขตวนอุทยานและเขตห้ามล่าสัตว์ป่าครอบคลุมพื้นที่ป่าชุมชน โดยที่ชาวบ้านไม่ทราบเรื่อง ซึ่งเป็นเขตป่าที่พวกเราดูแลรักษามากว่า 30 ปี ช่วยกันปลูกให้เป็นป่าขึ้นมาได้เพราะการมีส่วนร่วมของคนในชุมชน แต่พอป่าอุดมสมบูรณ์ขึ้นมาแล้วไม่รู้ว่าหน่วยงานเขาคิดอย่างไรถึงได้เอาป้ายมาติดในป่าป่าชุมชนที่พวกเราดูแลรักษาอยู่”

นางชาลี จันเมือง ชาวบ้านที่มีส่วนร่วมในการดูแลป่ากล่าวเพิ่มเติมว่า “ในอดีตเดิมพื้นที่กว่า 180 ไร่ ติดกับเขาพนมทอง ในเขตหมู่บ้านร่องท่อน-ปลวกง่าม ต.ชมภู อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก บริเวณนี้ เป็นพื้นที่เกษตรกรรม มีการปลูกกล้วย สับปะรด และมันสำปะหลัง รวมถึงสภาพป่าโดยรอบเป็นป่าที่แห้งแล้ง ด้วยชาวบ้านในพื้นที่ตระหนักถึงคุณค่าความสำคัญของพื้นที่ป่าต้นน้ำ เนื่องจากหลังการใช้พื้นที่ทำการเกษตรเพียงไม่กี่ปี ก็ทำให้น้ำในลำธารหยุดไหล ทำให้พระสงฆ์และชาวบ้านในชุมชนร่วมกันฟื้นฟูป่าแห่งนี้ ด้วยการปลูกต้นไม้ตามระบบนิเวศน์เดิมของป่า พร้อมกับทำแนวกันไฟเพื่อป้องกันไฟป่าทุกปี นับจาก ปี พ.ศ.2530 เป็นต้นมา”
เหตุการณ์ดังกล่าว นำมาซึ่งการยื่นจดหมายเปิดผนึก เรื่อง “การนำเสนอข้อกังวลและข้อเสนอแนะในการดำเนินการดูแลรักษาป่าชุมชนร่องท่อนแบบมีส่วนร่วมของชุมชน” เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจและการสร้างบรรยากาศที่ดี ในการแสวงหาแนวทางการทำงานร่วมกันระหว่างรัฐและชุมชน ทางชุมชนบ้านปลวกง่าม ร่องท่อนและชมรมพิทักษ์ธรรมชาติ(คนกับป่า)จังหวัดพิษณุโลก จึงมีข้อคิดเห็นดังนี้
- ชุมชนยืนยันว่า “คนกับป่าพึ่งพาอาศัยกัน” สามารถบริหารจัดการป่าชุมชนที่ชุมชนได้ปลูกเองและดูแลรักษาร่วมกันโดยมีความร่วมมือกันหลายภาคส่วน ตามแนวเขตเดิมที่ชุมชนกันไว้มาโดยตลอด และไม่มีการขยายพื้นที่แต่อย่างใด โดยได้มีการกำหนดระเบียบข้อตกลงร่วมกันของคนในชุมชน จนเปลี่ยนพื้นที่ที่มีต้นไม้ไม่มากนัก จนก่อเกิดป่าที่อุดมสมบูรณ์เป็นแหล่งอาหารให้ชุมชนได้หากิน ใช้สอย ตามวิถีชีวิตและฤดูกาลที่เหมาะสม รวมทั้งยังรักษาป่าให้สมบูรณ์และเติบโตได้ดังรูปธรรมที่ปรากฏอยู่ ณ ปัจจุบัน
- เพื่อลดความหวาดกลัวและความกังวลของคนในชุมชนต่อแนวทางการปฏิบัติ และสร้างบรรยากาศที่ดีในช่วงเวลาปฏิรูปประเทศอันเป็นแนวทางและหลักการของผู้นำรัฐบาลปัจจุบัน คณะกรรมการชมรมพิทักษ์ธรรมชาติ(คนกับป่า)จังหวัดพิษณุโลก และชุมชนมุ่งหวังที่จะเห็นถึงกระบวนการปรึกษาหารือเพื่อมีทิศทางการทำงานร่วมกันในรูปแบบการจัดการร่วม ทั้งภาคราชการ ชุมชน องค์กรอิสระ องค์กรพัฒนาเอกชน กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติและภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง โดยก่อเกิดเวทีและกลไกการปรึกษาหารือร่วมกัน เพื่อสร้างแนวทางและข้อตกลงในการทำงานร่วมกันต่อไป
ด้านนายสุรียา หาญไพบูลย์ นายอำเภอเนินมะปราง ได้กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า “ชื่นชมที่พี่น้องชาวบ้านอำเภอเนินมะปรางที่มีใจรักและร่วมกันดูแลรักษาผืนป่า แต่ด้วยวิธีปฏิบัติของหน่วยงานราชการมันมีขั้นตอนที่ซับซ้อน และหลังจากนี้จะเร่งดำเนินการให้มีเวทีพูดคุยหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและชุมชนเพื่อหาแนวทางการแก้ไขปัญหานี้ให้เร็วที่สุด”

ที่ ๑๙ บ้านหนองหญ้าปล้อง
ต.ชมพู อ.เนินมะปรางจ.พิษณุโลกจดหมายเปิดผนึก
วันที่ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๕๙เรื่อง การนำเสนอข้อกังวลและข้อเสนอแนะในการดำเนินการดูแลรักษาป่าชุมชนร่องท่อนแบบมีส่วนร่วมของชุมชน
เรียน นายอำเภอเนินมะปราง
เนื่องด้วยชุมชนบ้านปลวกง่าม ร่องท่อนและชมรมพิทักษ์ธรรมชาติ(คนกับป่า)จังหวัดพิษณุโลก ได้มีการรวมกลุ่มเพื่อการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ดิน น้ำ ป่า ชุมชน โดยเริ่มมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2530 บนฐานการจัดการและข้อตกลงร่วมกันของชุมชน มีคณะกรรมการที่ที่ชัดเจนในการบริหารจัดการและมีกฎระเบียบของชุมชนที่มีการตกลงร่วมกัน ผ่านกิจกรรมการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ เช่น การดูแลรักษาป่า การทำแนวกันไฟ การปลูกป่าเพิ่มเติม การทำประปาภูเขา และการสร้างรูปธรรมในการจัดการป่าเพื่อเป็นพื้นที่อาหารของชุมชนในรูปแบบ “คนกับป่าพึ่งพาอาศัยกัน” โดยร่วมมือกับภาคีต่างๆ เช่น หน่วยงานภาครัฐ องค์กรเอกชนทั้งในและต่างประเทศมาอย่างยาวนานต่อเนื่องกว่า 30 ปี ก่อเกิดป่าชุมชนที่สมบูรณ์เป็นรูปธรรมที่เห็นเป็นประจักษ์ชัดเจนในปัจจุบัน
แต่จากการดำเนินกิจกรรมเพื่อทำแนวเขตป่าชุมชนบ้านร่องท่อนที่ผ่านมาเมื่อวันที่ 9-10ตุลาคม พ.ศ. 2559 ซึ่งเป็นกิจกรรมที่มีวัตถุประสงค์เพื่อการสร้างแนวเขตที่ชัดเจนเพื่อทราบขอบเขตพื้นที่ในการที่ชุมชนจะปกป้องดูแลอนุรักษ์ ให้เป็นป่าชุมชนต่อไป แต่ในขณะดำเนินกิจกรรมประชุมปรึกษาหารือได้มีเจ้าหน้าที่เข้ามาทักท้วงโดยใช้ท่าทีที่ไม่เหมาะสม นำไปสู่การหวาดกลัวและกังวลถึงแนวทางปฏิบัติที่ชุมชนตรงลงร่วมกันมารวมทั้งหลังจากวันที่ 9-10ตุลาคม พ.ศ. 2559 เจ้าหน้าที่รัฐทั้งป่าไม้ ตำรวจ ทหาร ได้ลงพื้นที่พูดคุยกับชาวบ้านในชุมชนโดยมีท่าทีที่ไม่ค่อยเหมาะสม จนอาจนำไปสู่การสื่อสารที่คลาดเคลื่อนและเข้าใจผิดเกิดขึ้นได้
ดังนั้นเพื่อแสดงความบริสุทธิใจและการสร้างบรรยากาศที่ดี ในการแสวงหาแนวทางการทำงานร่วมกันระหว่างรัฐและชุมชน ทางชุมชนบ้านปลวกง่าม ร่องท่อนและชมรมพิทักษ์ธรรมชาติ(คนกับป่า)จังหวัดพิษณุโลก จึงมีข้อคิดเห็นดังนี้
- ชุมชนยืนยันว่า “คนกับป่าพึ่งพาอาศัยกัน” ชุมชนสามารถบริหารจัดการป่าชุมชนที่คนในชุมชนร่วมกันปลูกเองได้โดยไม่มีการขยายพื้นที่ แต่จัดการตามแนวเขตเดิมที่ชุมชนดูแลรักษากันมาภายใต้กฎกติการะเบียบข้อตกลงร่วมกันของชุมชนซึ่งระยะเวลาที่ผ่านมาสามารถเปลี่ยนพื้นที่จากป่าหญ้าแฝกที่ไม่ต้นไม้ไม่มากนักจนก่อเกิดป่าที่อุดมสมบูรณ์ที่เป็นแหล่งอาหารให้ชุมชนที่สามารถเข้าทำกิน ใช้สอย ได้ตามวิถีชีวิตและฤดูกาลที่เหมาะสม รวมทั้งยังรักษาป่าให้สมบูรณ์และเติบโตได้ดังรูปธรรมที่เห็นในปัจจุบัน
- เพื่อลดความขัดแย้งและความกังวลของชุมชนต่อแนวทางการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่และเพื่อสร้างบรรยากาศที่ดีในช่วงเวลาการปฏิรูปประเทศอันเป็นแนวทางหลักจากการประกาศของผู้นำรัฐบาลปัจจุบัน ชุมชนบ้านปลวกง่าม ร่องท่อนและชมรมพิทักษ์ธรรมชาติ(คนกับป่า)จังหวัดพิษณุโลก มุ่งหวังเห็นถึงกระบวนการปรึกษาหารือเพื่อมีทิศทางการทำงานร่วมกันในรูปแบบการจัดการร่วม ทั้งภาครัฐ ชุมชน องค์กรอิสระ องค์กรพัฒนาเอกชน กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติและภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง โดยเสนอให้เกิดเวทีในการปรึกษาหารือและพัฒนากลไกเพื่อหารูปแบบแนวทางและข้อตกลงร่วม ในการทำงานร่วมกันต่อไปในอนาคต
ด้วยความเคารพและเชื่อมั่นในพลังประชาชน
๑๔ ตุลาคม ๒๕๕๙
นายน้อย วิลัยฤทธิ์
ที่ปรึกษาชมรมพิทักษ์ธรรมชาติ(คนกับป่า) จังหวัดพิษณุโลก