โดย ณัฐวุฒิ อุปปะ / กลุ่มพิทักษ์สิ่งแวดล้อมเนินมะปราง
ณ วินาทีนี้ “เหมืองทอง” ยังเปิดดำเนินการอยู่เป็นปกติ
ไม่มีวี่แววและทิศทางที่จะนำไปสู่การปิดเหมืองเพื่อฟื้นฟูในปลายปีตามกล่าวอ้าง แสดงให้เห็นถึงกลไกที่ยังไม่พร้อมกับการจัดการด้านต่างๆของการทำเหมือง รวมถึงข้อคำถามที่ยังคงดังอยู่ในใจถึงความคุ้มค่าหรือประเด็นของผลกระทบที่ยังเกิดขึ้น
แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในห้วงเวลานี้ กลับมีการผลักดัน พ.ร.บ.แร่ ฉบับใหม่(ฉบับล้างผลาญทรัพยากร ที่แก้ไขให้ทำเหมืองแร่ได้แม้อยู่ในเขตอนุรักษ์)ที่จะส่งผลให้มีการทำเหมืองแร่เกิดขึ้นมีมายมายทั่วประเทศหาก พ.ร.บ.นี้มีผลบังคับใช้ ทั้งที่คำถามยังไร้คำตอบแต่ยังกลับมีความพยายามเดินหน้า พ.ร.บ.นี้อย่างมีนัยยะสำคัญ
การพยายามผลักดันครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงทิศทางของแนวนโยบายที่ไม่เอื้อในการปกป้องทรัพยากรของประเทศ ซึ่งขัดแย้งเป็นอย่างมากกับสิ่งที่เคยประกาศบอกว่าจะเพิ่มพื้นที่ป่า จะรักธรรมชาติ จะดูแลสิ่งแวดล้อม จะให้ความสำคัญกับประชาชน เพราะสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นคือกระบวนการในกำลังผลักดัน พรบ.ที่ย้อนแย้งกับสิ่งที่พูดมาทั้งหมด
กี่ศพแล้ว อีกกี่หยดน้ำตา อีกกี่คนที่ต้องอพยพย้ายถิ่น อีกดี่ชีวิตที่รอวันตาย และอีกสารพัดมลพิษที่ตะเกิด กับการเปิดทางให้อุตสาหกรรมไร้ความรับผิดชอบมาทำลายทรัพยากรอย่างมหาศาล และหอบผลประโยชน์ไปต่างชาติ ทิ้งไว้เพียงหายนะและภาพทรงจำที่แล้วร้าย บนความวอดวายของประเทศไทย
ก่อเกิดคำถามมากมายไม่ว่าจะเป็น เราจำเป็นอะไรที่ต้องผลักดันกฏหมายที่เสมือนการขายทรัพยากรของชาติครั้งนี้ หรือจะเป็นคำถามว่าผละกดันให้มีการทำเหมืองนั้นคนไทยส่วนใหญ่หรือใครกันแน่ที่ได้ประโยชน์ หยุดอ้างว่ากระตุ้นเศรษฐกิจอีกเลย เพราะจากข้อมูลกรณีหมองทองพิจิตร คิดง่ายๆคือ หากเค้า(ทุนต่างชาติ) ได้ทองไป ราคา 100 บาท เราได้รับเพียง 6.6บาทเท่านั้น
■■นี่หรือกระตุ้นเศรษฐกิจ นี่หรือความคุ่มค่า ? ■■
แสดงความจริงใจบ้างเถิด หยุดการเอาชีวิตและทรัพยากรไปแร่ขายแลกกับเศษเงินที่ไม่มีความคุ้มค่าเลย แล้วกลับมาปกป้องวิถีชีวิต สิทธิชุมชน และทรัพยากรธรรมชาติกันเถิดท่าน
■■ จงทบทวนแล้วหยุดผลักดัน พ.ร.บ.แร่ ทันที ■■
:::คารวะประชาชนทุกดวงใจ กลุ่มพิทักษ์สิ่งแวดล้อมเนินมะปราง:::